เทคนิคการเลี้ยงเป็ดแบบมืออาชีพ
เทคนิคการเลี้ยงเป็ดแบบมืออาชีพ
ประเทศไทยสามารถผลิตเป็ดได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านตัวต่อปี ถึงแม้
การเลี้ยงเป็ด ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายเท่าการเลี้ยงไก่ แต่เดิมมีการเลี้ยงเป็ดกันมากตามบริเวณชายทุ่งนา หรือที่มีหนอง คลอง บึง โดยให้เป็ดหาอาหารจากเศษข้าวที่ตกในท้องนา และลูกกุ้ง ลูกปลา หอยเล็กๆ ผู้ที่เลี้ยงเป็ดมีอาชีพจำนวนมากมักอยู่ตามแถบชายทะเล ซึ่งสามารถหาเศษปลาเล็กๆ ที่เรียกว่า ปลาเป็ด ได้ง่ายทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
จังหวัดที่เลี้ยงเป็ดมา ได้แก่ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สุพรรณบุรี แต่ปัจจุบันวิชาการทางอาหารสัตว์ของประเทศไทยก้าวหน้ามากขึ้น มีการผลิตอาหารเป็ดโดยเฉพาะอาหารจำหน่ายและมีพันธุ์เป็ดที่จะเลี้ยงมากขึ้นทำให้มีการเลี้ยงตามภาคต่างๆ เพิ่มขึ้น เป็ดที่เลี้ยงทั่วไปมีทั้งเป็ดเนื้อและเป็ดไข่ แต่ส่วนมากนิยมเลี้ยงเป็ดไข่มากกว่า เพราะเมื่อเป็ดหยุดไข่ก็ขายเป็นเป็ดเนื้อได้
- เพื่อให้ไข่ เนื้อเป็นอาหาร ช่วยเพิ่มรายได้ ประหยัดทุน
- สามารถใช้ที่ดินและแหล่งน้ำให้เป็นประโยชน์มากขึ้น
- ใช้เศษผัก เศษอาหารและปลาเป็ดให้เป็นประโยชน์ได้
- ได้มูลเป็ดเป็นปุ๋ย
ลักษณะทั่วไปของโรงเรือนเป็ดที่ดี ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- กันลม แดด ฝน ได้
- อากาศภายในโรงเรือนสามารถระบายถ่ายเทอากาศได้ดี
- สามารถรักษาความสะอาดได้ง่ายไม่เป็นที่ขังน้ำ
- พื้นควรเป็นพื้นทราย หรือพื้นซีเมนต์ จะทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายและควรปูแกลบเป็นวัสดุรองพื้น
- ในบริเวณที่วางภาชนะให้น้ำควรมีที่ระบายน้ำ พื้นคอกตรงบริเวณที่ให้น้ำควรใช้พื้นไม้ระแนงหรือใช้แผ่นซีเมนต์แบบเดียวกับที่ปูคอกหมู ซึ่งเป็นช่องจะสามารถระบายน้ำได้ดี หรือทำเป็นตะแกรงลวดเพื่อวางที่ให้น้ำ
- สร้างง่าย ราคาถูก และใช้วัสดุก่อสร้างที่มีในท้องถิ่น
- หลังคาควรเป็นหลังคาจั่ว 2 ชั้น เพราะจะช่วยให้ระบายอากาศได้ดี
- ไม่ควรเลี้ยงแน่นจนเกินไป
1. เครื่องกกลูกเป็ด
ลูกเป็ดเมื่อยังเล็กๆ ยังไม่มีความอบอุ่นหรือเครื่องกั้นความหนาวเพียงพอ เมื่อถูกอากาศเย็นในเวลากลางคืนหรือตอนเช้าๆ ก็จะหนาวสั่น ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้นานๆ ลูกเป็ดจะตายหรือแคระแกรนได้ จึงต้องมีเครื่องกกให้ลูกเป็ด
การกกลูกเป็ด สามารถทำได้ 3 ลักษณะคือ ใช้แม่เป็ดกก ใช้เครื่องกกที่ใช้ไฟฟ้า และใช้เครื่องกกที่ไม่ใช้ไฟฟ้า
1. การกกด้วยแม่เป็ด เป็นวิธีแบบธรรมชาติใช้ได้สำหรับกรณีที่เลี้ยงเป็ดจำนวนไม่มาก หรือในการเลี้ยง แบบหลังบ้าน มีลูกเป็ดไม่กี่ตัว วิธีการกกที่นอกเหนือจากการใช้วิธีธรรมชาติ เป็นการกกที่ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วย ซึ่งมีหลายวิธี ดังนี้
2. วิธีกกลูกเป็นแบบง่ายๆ เป็นการกกที่นิยมใช้ในชนบท กกโดยไม่ใช้ความร้อนช่วย โดยแบ่งลูกเป็ดออกเป็นฝูงๆ ละ 100 ตัว สำหรับใส่คอกนอนในเวลากลางคืน คอกนอนต้องปิดมิดชิดพอควรเพื่อกันลมโกรก ภายในคอกแบ่งออกเป็นช่องๆ ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร สำหรับเป็ด 100 ตัว ใช้ไม้กระดานหรือไม้ไผ่กั้น สูงจากพื้นคอกประมาณ 25-30 เซนติเมตร ด้านบนที่นอนปิดด้วยกระสอบป่าน เพื่อเก็บความร้อนจากตัวลูกเป็ด
3. วิธีกกด้วยถ่านไฟหรือตะเกียงรั้ว โดยใช้เตาอั้งโล่ใส่ถ่านไฟเป็นแหล่งให้ความร้อนทำให้ภายในคอกอบอุ่น และต้องมีที่กั้นรอบๆ เตาเพื่อกันไม่ให้ลูกเป็ดพลัดเข้าไปถูกเตาอั้งโล่ อาจใช้ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ตัดให้สูง 20 เซนติเมตร หรือจะใช้ลวดตาข่าย หรือไม้ไผ่สานกั้นโดยรอบก็ได้
การใช้ตะเกียงรั้วน้ำมันก๊าดเป็นแหล่งให้ความร้อนในการกกลูกเป็ดก็ได้ผลดี เพื่อให้เก็บและแผ่กระจาย ความร้อน ได้ดีขึ้นควรมีฝาชีสังกะสีหรืออลูมิเนียมครอบ หย่อนให้ขอบฝาชีสูงจากพื้นประมาณ 20 เซนติเมตร รอบนอกควรมีแผงล้อมกกอีกชั้นหนึ่ง หากปูพื้นคอกด้วยแกลบ ควรมีแผ่นโลหะรองใต้เตาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้
4. วิธีกกด้วยแก๊ส เครื่องกกด้วยการใช้แก๊ส ประกอบด้วยเตา ฝาชีหรือตัวกกและถังแก๊ส พร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับควบคุมความร้อน ในระดับที่ต้องการตามอายุลูกเป็ด
5. การกกด้วยไฟฟ้า นับว่าเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องกกแบบฝาชี ใช้หลอดไฟธรรมดาเป็นแหล่งให้ความร้อน หรือใช้ลวดร้อนเป็นแหล่งให้ความร้อน หรือจะใช้หลอดไฟอินฟราเรด 2-3 หลอด แขวนให้สูงจากพื้นคอกประมาณ 18-20 เซนติเมตร จะเพียงพอสำหรับการกกลูกเป็ดประมาณ 100 ตัว
6. การกกลูกเป็ดแบบกรง การเลี้ยงลูกเป็ดสามารถทำอย่างง่าย ๆ โดยใช้ไม้ไผ่หรือลวดตาถี่ปูพื้น ถ้าใช้ไม้ไผ่ปูพื้นควรใช้ลวดขนาด 1/2 นิ้ว ปูทับอีกชั้นหนึ่ง ลวดที่ใช้ควรเป็นลวดตาสี่เหลี่ยมเพราะไม่คม ซึ่งอาจตำเท้าลูกเป็ดได้ ถ้าหากไม่ได้ต้องใช้ลวดตาหกเหลี่ยม ควรเป็นลวดขนาดใหญ่ ถ้ามีกรงเลี้ยงลูกไก่อยู่แล้วก็ใช้เลี้ยงลูกเป็ดได้ กรงขนาด 1 x 2 เมตร เลี้ยงลูกเป็ดได้ 50 ตัว จนถึงอายุไม่เกิน 1 เดือน หรือจนโตพอที่จะเอาลงเลี้ยงปล่อยฝูงได้
กรงกกควรกั้นทึบ 3 ด้าน ประมาณ 1 ใน 3 ของกรงด้านใดด้านหนึ่ง ด้านที่กั้นทึบควรเปิดส่วนบนติดกับขอบกรงลงมาประมาณ 10 เซนติเมตร เป็นช่องระบายอากาศ โดยเฉพาะถ้าใช้ตะเกียงรั้วกก ช่องนี้จะเป็นช่องระบายแก๊สหรือควันเสียออกด้วย
ส่วนอีก 2 ใน 3 ของกรงด้านบนควรเปิดหรือปิดด้วยลวดตาข่าย เพื่อให้โปร่งด้านข้างจะปิดทึบหรือจะใช้ลวดตาข่ายก็ได้ ด้านหน้าของส่วนที่ใช้กกควรใช้ผ้าหรือกระสอบป่านตัดเป็นริ้ว ทำเป็นม่านกั้นให้ขอบสูงจากพื้นกรงประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อเก็บความอบอุ่นภายในกก ถ้าอากาศหนาวจัดอาจต้องใช้ผ้าหรือกระสอบป่านปิดข้างกรงโดยรอบก็ได้
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการกกลูกเป็ดนั้น ควรจะสังเกตจากปฏิกิริยาของลูกเป็ด เพราะลูกเป็ดจะบอกได้ดีกว่าว่าได้รับความอบอุ่นที่พอดีหรือไม่ ถ้าลูกเป็ดสุมกันเป็นกลุ่มและมีเสียงร้อง แสดงว่าอุ่นไม่พอต้องเพิ่มความร้อน ถ้าลูกเป็ดกระจายอยู่นอกกกยืนอ้าปากหอบและกางปีกแสดงว่าร้อนเกินไป ต้องลดความร้อนลง ถ้าอุณหภูมิกำลังพอดีลูกเป็ดจะนอนราบกับพื้นกระจายอยู่ทั่วไปในกก และริมกก
ข้อควรพิจารณาในการกกลูกเป็ด
1. จำนวนลูกเป็ดที่กกต่อครั้ง หากกกลูกเป็ดจำนวนไม่มาก อาจใช้ลังไม้ดัดแปลงเป็นกรงกกก็ได้ โดยสุมฟางไว้รอบๆ ลังไม้ เพื่อให้ลูกเป็ดอบอุ่น ไม่จำเป็นต้องสร้างกรงกกอย่างมาตรฐาน
2. ความสะดวกในการใช้ไฟฟ้า หากบริเวณที่เลี้ยงเป็ดมีไฟฟ้าถึงอาจใช้หลอดไฟฟ้าเป็นแหล่งความร้อนในการกกลูกเป็ดได้ หลอดไฟฟ้า 60 แรงเทียน 2 หลอด สามารถกกลูกเป็ดได้ 120-150 ตัว ถ้าไม่มีไฟฟ้าก็อาจใช้ตะเกียงรั้วแทนหลอดไฟก็ได้ นอกจากนี้แล้วเตาถ่านอั้งโล่ หรือตุ่มเก่า ๆ ที่ใส่ถ่านไม้ไว้ข้างในก็อาจใช้เป็นแหล่งให้ความอบอุ่นแก่ลูกเป็ดได้ดีเช่นกัน
3. ฤดูที่เข้าลูกเป็ด หากเข้าลูกเป็ดในฤดูร้อนก็อาจไม่จำเป็นต้องสร้างกรงกกดีนัก แต่ถ้าเข้าลูกเป็ดในฤดูหนาว กรงกกลูกเป็ดควรสร้างให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้กรงกกนั้นเก็บความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะข่วย ประหยัดค่าไฟฟ้าาหรือค่าน้ำมันเป็นอันมาก
4. ภัยอันตรายจากสัตว์อื่น หากบริเวณที่เลี้ยงเป็ดมีสุนัข นกฮูก หนู แมว และงูมาก ควรล้อมกรงกกด้วย ตาข่ายลวด
5. เนื้อที่กรงกก ไม่ว่าจะเลือกใช้กรงแบบไหน ควรสร้างกรงกกให้มีเนื้อที่พอเหมาะกับจำนวนลูกเป็ดที่ต้องการจะกก ในเนื้อที่ 1 ตารางฟุต ไม่ควรกกลูกเป็ดเกิน 7 ตัว หรือ 1 ศอกสี่เหลี่ยมต่อลูกเป็ด 10 ตัว อัตราส่วนนี้ใช้สำหรับกกลูกเป็ดจำนวนเกิน 100 ตัวต่อครั้ง ถ้ากกเป็ดจำนวนน้อย เนื้อที่ต้องเพิ่มมากขึ้น หากเนื้อที่กกแคบไป ลูกเป็ดจะไม่สามารถหนีความร้อนได้ แต่ถ้าเนื้อที่กกกว้างไป ลูกเป็ดบางตัวอาจหนาวตายเพราะอยู่ไกลจากบริเวณ ที่ความร้อนไปถึง
2. รางอาหาร
ควรทำ 3 ขนาด คือ ขนาดเล็กสำหรับลูกเป็ด ขนาดกลางสำหรับเป็ดรุ่น และขนาดใหญ่ สำหรับเป็ดไข่ ภายในรางอาหารควรยารอยต่อกันรั่ว เพราะเรานิยมเลี้ยงเป็ดด้วยอาหารเปียก
3. รางน้ำ
สำหรับลูกเป็ด ควรใช้แบบกระติกน้ำ ซึ่งหาซื้อได้ในท้องตลาด หากหาซื้อลำบากก็อาจทำรางอาหารขนาดเล็กที่ยารอยรั่วอย่างดีใช้แทนก็ได้ ข้อสำคัญคือ ต้องมีรางไม้กันไม่ให้ลูกเป็ดลงเล่นน้ำได้ เพราะจะทำให้ลูกเป็ดหนาวตาย ถ้าบริเวณที่เลี้ยงเป็ดมีต้นไผ่มาก อาจจะใช้ต้นไผ่ลำโตๆ ผ่าเป็นร่องแล้วฝังดินใช้เป็นรางน้ำสำหรับลูกเป็ดก็ได้ผลดี และเป็นการประหยัดด้วย คอยเติมน้ำสะอาดอยู่เสมอและทำความสะอาดกระถางน้ำวันละครั้ง ส่วนรางน้ำสำหรับเป็ดใหญ่นั้นอาจใช้อ่างดินเผาหรือกะบะไม้ที่ยารูรั่วไว้เรียบร้อย ควรมีไม้กันไม่ให้เป็ดลงไปเล่นน้ำได้ ถ้าเลี้ยงเป็ดเป็นจำนวนมากอาจสร้างรางน้ำขนาดใหญ่ด้วยซีเมนต์ แล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่าน น้ำจะสะอาดอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เป็ดจะลงไปเล่นน้ำก็ตาม
รางน้ำควรวางให้ห่างจากรางอาหารพอควร เพื่อบังคับให้ลูกเป็ดได้เดินไปกินน้ำ และอาหาร เป็นการออกกำลังกาย
การเตรียมตัว
ก่อนลูกเป็ดมาถึงควรเตรียมตัวในเรื่องต่าง ๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม ดังนี้
1. ทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง พร้อมทั้งฆ่าเชื้อโรคทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 7 วัน
2. ใส่แกลบหรือสิ่งรองพื้นอื่นๆ ที่ใหม่และสะอาด รองพื้นคอกให้หนาประมาณ 4 นิ้ว
3. จัดวางเครื่องกกพร้อมเครื่องให้ความอบอุ่น เช่น ตะเกียงรั้ว หรือหลอดไฟ และให้เครื่องกกอบอุ่นเพียงพอเมื่อลูกเป็ดมาถึง
4. มีแผงล้อมเครื่องกก กันไม่ให้ลูกเป็ดออกห่างจากเครื่องกกมากเกินไป แผงล้อมเครื่องกกอาจใช้ลวดตาข่าย ไม้กระดานหรือสังกะสีแผ่นเรียบ สูงประมาณ 50 เซนติเมตร วางห่างจากเครื่องกกประมาณ 2 ฟุต ในระยะการกก 2-3 วันแรก
5. เตรียมที่ให้น้ำและอาหารไว้ให้พร้อม และมีปริมาณเพียงพอ มีน้ำสะอาดไว้ให้กิน วางที่ให้น้ำและอาหารให้ทั่วถึง
6. เพื่อให้ลูกเป็ดกินอาหารเป็นเร็วขึ้น ควรปูพื้นบริเวณเครื่องกกด้วยกระสอบป่านเก่าๆ ที่สะอาด แล้วโรยอาหารให้กิน อย่าใช้กระดาษปูเพราะกระดาษจะลื่นทำให้ลูกเป็ดขาเสียได้
1. ลูกเป็ดอายุ 1 วันถึง 3 สัปดาห์ ควรให้ความอบอุ่น อาจใช้หลอดไฟฟ้ากก หรือกกด้วยตะเกียงน้ำมันก๊าด
2. อย่าให้ลูกเป็ดเล็กลงเล่นน้ำ หรือภาชนะใส่น้ำควรมีที่กั้นไม่ให้เป็ดลงไปเล่น เพราะลูกเป็ดเล็กขนเปียกง่ายเพราะยังไม่มีต่อมน้ำมันที่ช่วยให้ขนเป็ดเป็นมันจึงเปียกน้ำได้ง่าย จะทำให้เป็ดหนาวและเป็ดปอดบวมได้ง่าย หรือตายได้
3. ลูกเป็ดอายุ 1 วัน อาหารที่ให้ควรเป็นน้ำและกรวดหรือทรายหยาบ และให้กินพวกปลายข้าวละเอียดหรือข้าวโพดป่นบ้าง
4. เมื่อลูกเป็ดอายุ 2-6 วัน ให้อาหารอ่อนที่ย่อยง่าย ใช้ข้าวสุก 2 ส่วนผสม อาหารลูกไก่ 1 ส่วน คลุกน้ำพอหมาดโปรยใส่ถาดให้กิน หรือจะให้อาหารผสมสำหรับลูกเป็ดกินเลยก็ได้
5. เมื่อลูกเป็ดมีอายุ 1-4 สัปดาห์ จะเติบโตแข็งแรงควรหั่นผักสดหรือหญ้าขนหั่นฝอยปนด้วย ค่อยลดจำนวนข้าวสุกลง ให้อาหารผสมมากขึ้น หรือจะใช้รำละเอียดต้มกับปลาเป็ดหรือถั่วเขียวต้มหั่นผักผสมคลุกให้กิน
การให้อาหารลูกเป็ดควรให้กินคราวละน้อย ๆ ในตอนแรก ๆ เมื่อลูกเป็ดกินอาหารเก่งแล้วให้อาหารทุก 2-3 ชั่วโมง และต่อไปลดลงให้วันละ 3 ครั้ง ให้มากพอที่ลูกเป็ดจะกินได้เกือบตลอดเวลาเมื่ออายุได้ 1 อาทิตย์ แต่อย่าให้จนเหลือ และต้องคอยดูความสะอาดอย่าให้เศษดินและสิ่งสกปรกลงไปในอาหาร หรือมดขึ้น
6. อาหารเป็ดระหว่างอายุ 1-4 เดือน ระยะนี้เป็นระยะของการเจริญเติบโตเร็ว อาหารที่ให้จะเป็นอาหาร ผสมที่ขายตามร้านขายอาหารสัตว์ก็ได้ หรือจะใช้ปลายข้าวรำหยาบ รำละเอียด ผัก เศษปลาต้ม หรือปลาป่นผสมลงไปกับใบกระถินป่นเล็กน้อย คลุกให้เข้ากัน
7. เมื่อเป็ดอายุ 4 เดือนขึ้นไป จะสาวเต็มที่และรอการไข่ อายุราว 4 1/2-5 เดือน ควรให้อาหารพวกปลาเป็ด หอยเล็ก ๆ รำหยาบ รำละเอียด ปลายข้าว หรือถ้าไม่มีปลาเป็ดก็ใช้ปลาป่นผสมลงไปกับใบกระถินป่นเล็กน้อย
1. การย้ายเป็ดสาวที่จะเข้าเลี้ยงในคอกเป็ดไข่ ควรย้ายก่อนที่เป็ดจะเริ่มไข่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ เพื่อให้เป็ดเคยชินกับคอกใหม่
2. การให้น้ำเป็ดไข่ควรมีน้ำสะอาด ให้กินตลอดเวลา ที่ให้น้ำควรทำเป็นลานคอนกรีต ป้องกันพื้นคอก ชื้นแฉะ เพราะเป็ดเวลากินน้ำชอบใช้ทำให้พื้นคอกเปียก ที่ให้น้ำควรมีที่รองพื้นและมีที่ระบายน้ำได้ดี
3. การให้อาหาร ถ้าเลี้ยงแบบในน้ำหรือลำคลองเป็ดสามารถหาลูกกุ้ง ลูกปลา และหอยเล็ก ๆ กินได้ ก็ให้อาหารพวก รำหยาบ รำละเอียด ปลายข้าว หรือข้าวเปลือกผสมให้กิน หรือถ้าอยู่ในแหล่งที่มีปลาเป็ด ใช้ปลาเป็ดต้มหรือสับหรือบดผสมกับรำหยาบ รำละเอียด ปลายข้าวหรือ ข้าวโพดให้กิน หรืออาจจะให้อาหารผสมตามสูตรที่ให้มาก็ได้ หรือซื้อหัวอาหารเป็ดมาผสมกับพวกรำ ปลายข้าว ข้าวโพด ให้เป็ดไข่กินก็ได้เช่นกัน แล้วแต่ผู้ที่จะเลี้ยง
4. การให้แสงสว่าง ในระยะเป็ดไข่ ควรให้แสงสว่างวันละ 16-18 ชั่วโมง เพื่อช่วยในการทำให้เป็ดไข่ดีขึ้น โดยใช้แสงไฟนีออนหรือหลอดไฟธรรมดา หรือใช้แสงสว่างตามธรรมชาติประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วตอนหัวค่ำเปิด แสงไฟนีออนประมาณ 2 ชั่วโมง และเช้ามืดเปิดอีก 2-3 ชั่วโมง หลอดไฟแสงสว่างควรติดสูงจากพื้นดินประมาณ 2.4 เมตร หรือ 8 ฟุต ควรแขวนหลอดไฟให้กระจายทั่วคอก
5. ควรมีรังไข่ ขนาดกว้าง 12 x 14 นิ้ว สูง 12 นิ้ว ด้านบนและด้านหน้าเปิด ใช้ฟางหรือแกลบรองพื้น รังไข่ ใช้อัตรา 1 รังต่อเป็ด 3-5 ตัว
การเลี้ยงเป็ดเนื้อ เป็นการค้าเพิ่งเริ่มต้นในประเทศไทยไม่นานมานี้เอง เดิมนั้นใช้เลี้ยงเป็ดพื้นเมืองหรือลูกผสม โดยคัดเอาตัวผู้เป็นเป็ดเนื้อส่งตลาด ปัจจุบันเนื่องจากมีพันธุ์ไฮบริดเข้ามามาก ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายโดยเร็ว จึงนิยมเลี้ยงกันมากและการซื้อขายปัจจุบันเปลี่ยนแปลงมาจากการขายเหมาตัวแบบสมัยก่อน มาชั่งขายตามน้ำหนักทำให้ผู้เลี้ยงไม่ขาดทุน
1. การเลี้ยงดูเป็ดเนื้อ การเลี้ยงดูเป็ดเล็ก ๆ ในช่วงอายุ 1-4 อาทิตย์ก็เลี้ยงเช่นเดียวกับเป็ดไข่ มีการกก ให้อาหารผสมสำหรับลูกเป็ด (โปรตีน 20-22 เปอร์เซ็นต์)
2. เมื่อเป็ดเนื้อมีอายุได้ 4 อาทิตย์ จึงเริ่มให้อาหารระยะขุน ซึ่งมีโปรตีน 16-18 เปอร์เซ็นต์ อาหารพวกพืชผักสดคงให้กินตามเดิม อาจจะให้อาหารผสมที่ขายตามท้องตลาด หรืออาหารอัดเม็ดให้เป็ดเนื้อกินก็ได้ เมื่อเป็ดอายุ 6-7 อาทิตย์ จึงจับส่งตลาดได้
3. ข้อควรระวังสำหรับการเลี้ยงเป็ดเนื้อพวกลูกผสมไฮบริด เนื่องจากเป็ดพวกนี้โตเร็ว ควรจะให้แร่ธาตุพวกแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัสผสมในอาหารพร้อมทั้งไวตามินดีให้เพียงพอ หรืออาจจะเพิ่มเปลือกหอยใส่รางแยกให้กินต่างหาก ในระยะขุนเพื่อช่วยไม่ให้เป็ดขาอ่อนหรือขารับน้ำหนักตัวไม่ไหว
4. การเลี้ยงเป็ดเนื้อ ควรเลือกพันธุ์เป็ดที่มีขนสีขาว เพราะสะดวกในการถอนขนและขายง่าย แต่พันธุ์เป็ดเนื้อปัจจุบันนี้ขนมักจะสีขาวตามความนิยมของตลาดอยู่แล้ว
โพสต์โดย : POK@