Social :



ใครไม่เชื่อให้ลองอ่าน.. เรื่องจริงจากคนโบราณว่าไม่นานโลกจะต้องแตก

02 ก.ย. 62 19:09
ใครไม่เชื่อให้ลองอ่าน.. เรื่องจริงจากคนโบราณว่าไม่นานโลกจะต้องแตก

ใครไม่เชื่อให้ลองอ่าน.. เรื่องจริงจากคนโบราณว่าไม่นานโลกจะต้องแตก





ใครไม่เชื่อให้ลองอ่าน.. เรื่องจริงจากคนโบราณว่าไม่นานโลกจะต้องแตก

เรื่องราวความเชื่อที่คนสมัยก่อนชอบสอนว่าโลกจะแตกแล้ว ใครเชื่อบ้าง อย่างวันนี้กระแสสงครามระหว่างมหาอำนาจ กับประเทศที่กำลังแสดงแสนยานุภาพทางทหารเริ่มเดือดหลายครั้ง คนที่มีความกังวลและสงสัยว่าโลกจะแตกจริงไหมและเมื่อไหร่ ความจริงโหราจารย์โบราณทำนายไว้แล้ว ว่ามีจริง รวมทั้งวันสิ้นโลกส่วนจะเกิดเมื่อไหร่บทความนี้ Horoscope thaiza จะอธิบาย

     วันสิ้นโลกทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าเมื่อพระพุทธศาสนาดำเนินเกินกึ่งพุทธกาลโลกจะมีอันตรายร้ายแรงมีการรบราฆ่าฟันกัน มีสงครามใหญ่มีพายุใหญ่ มีน้ำท่วม แผ่นดินแยก มีคลื่นยักษ์ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง ผู้คนอดอยาก และดำเนินมาได้ห้าพันปีจะเกิดไฟบันไลกันล้างโลก ผู้คนจะล้มตายกันหมด ส่วนศาสนาอิสลาม มีความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกคือวันกิยามะห์ คติความเชื่อชาวอิสลามเชื่อว่าจะมีอุกาบาทตกลงมา มีควันสีดำปกคลุม ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก การฆ่าฟัน แผ่นดินไหว ลมพายุ จะมีการเป่าสังข์ดังทั่วโลกพระอัลลอฮ์จะสอบสวนว่าผู้ใดที่ทำละหมาดมา พระองค์จะปกป้องเหลือแต่ผู้ที่ปฏิเสธความศรัทธาพระองค์ จะต้องตายไป 

Lif
     การทำนายจากนอสตราดามุสแพทย์ชาวฝรั่งเศส โหรชื่อดังที่คนรุ่นใหม่คงรู้จักทำนายอนาคตโลก ว่า มาบุสจะตายในไม่ช้า จะมีการฆ่าหมู่อย่างน่าสยดสยอง การแก้แค้นจะปรากฏ ความกระหาย ความอยากจะมาพร้อมดาวหางโคจรมา นอสตราดามุสบันทึกคำทำนายว่าผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งคือ Napauron หรือ นโปเลียนผู้ปฏิวัติฝรั่งเศส ผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่สองคือ Hister หรือฮิตเลอร์ผู้นำเยอรมัน ความพินาศย่อยยับผ่านไปโลกจะเล็กกว่าเดิมสันติภาพจะอยู่นานจนกระทั่ง ดินแดนต่าง ๆ มีประชากรมากขึ้นผู้คนจะเที่ยวไปโดยตลอด ทางอากาศ บกและน้ำแต่แล้วสงครามจะเกิด และนอสตราดามุสทำนายว่าสงครามโลกครั้งที่สามผู้เริ่มคือMabus หรือมาบุสวลีที่ว่า “สันติภาพจะอยู่นานจนกระทั่ง ดินแดนต่าง ๆ มีประชากรมากขึ้น”คือระยะเวลาระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองและสามห่างกันมาก วลีที่ว่า “โลกจะเล็กกว่าเดิม”น่าจะเพราะอินเตอร์เน็ตและสังคมโซเชียลมีเดีย แต่Mabus หรือมาบุสคือใครยังไม่ปรากฏ

     มนุษย์แต่ละชาติพันธุ์และแต่ละศาสนาย่อมมีความเชื่อต่างกัน แต่ทำไมอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือความหายนะจากธรรมชาติและมนุษย์ จะจริงหรือไม่มีใครกล่าวอย่างชัดเจน และสัจธรรมที่กล่าวว่าใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจังมีเกิดขึ้น คงอยู่และสลายไป ไม่มีอะไรยั่งยืนทั้งสิ้นคือความจริง ไม่ว่าโลกจะสิ้นหรือไม่การทำความดีละเว้นความชั่ว คือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะยืดเวลาวันสิ้นโลกลง


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:sanook.com

โพสต์โดย : monnyboy