เทคนิคการเพิ่มความหวานให้ชมพู่ โดยเกลือแกง และการฉีดน้ำตาล

นายประมวล  ธาตุทอง  ลูกชายเกษตรกรสวนชมพู่  ที่เมื่อเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร  เอกเทคโนโลยีการผลิตพืช  มหาวิทยาลัยศิลปากร  แล้วก็ไม่คิดจะไปทำงานที่ไหน นอกจากสานต่องานสวนชมพู่ของพ่อเท่านั้น  เขานำภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดมา  กับความรู้ตามหลักวิชาการเกษตรที่เขาเรียนมา  มาผสมผสานปรับปรุงในการดูแลชมพู่ดียิ่งๆ  ขึ้นไป  และมีความต้องการอนุรักษ์ชมพู่พันธุ์เพชรสายรุ้งพันธุ์ดั้งเดิมที่ได้รับพระราชทานจากในหลวง  ร. 4  ให้เป็นของดีประจำเมืองเพชรต่อไปตราบนานเท่านาน

ชมพู่เพชรสายรุ้ง   เมื่อก่อนจะมีสองชื่อคือ เพชรสายน้ำผึ้ง   กับ เพชรสายรุ้ง   ชมพู่เพชรสายรุ้งกับเพชรสายน้ำผึ้งต่างกันตรงฤดูเรียก  พอฤดูหนาวจะเรียกเพชรสายรุ้ง  ถ้าฤดูร้อนจะเรียกเพชรสายน้ำผึ้ง ต้นเดียวลูกเดียวกันนั่นเอง ชมพู่เพชรสายรุ้งจะมีการเกิดเปลี่ยนแปลงสีจากเขียว ขาว ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม แดงอ่อน แดงเข้ม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เย็นตั้งแต่ปลายธันวาคมจนถึงประมาณกลางถึงสิ้นกุมภาพันธ์  ก็จะเป็นชมพู่เพชรสายรุ้ง  แต่พอปลายมีนาคม - พฤษภาคม  สีสันที่เป็นสีชมพูอ่อน สีแดงเข้ม  หรือสีแดงอ่อนจะหายไป แต่จะมีเส้นสายของลูกชมพู่ที่เป็นริ้วๆ ตรงลงมา นั่นคือเส้นบอกความหวาน เส้นมันจะบอกว่าชมพู่นี้มีการคายน้ำมาก เส้นมันจะนูนออกมา  เป็นที่มาของชมพู่เพชรสายน้ำผึ้ง แต่ตอนนี้เพื่อป้องกันการสับสน  ก็ใช้ชื่อเดียว  คือ  ชมพู่เพชรสายรุ้ง  จุดเด่นของมัน  คือ หวานกรอบ  และฉ่ำหวาน กินเข้าไปทำให้สดชื่น  เวลาเคี้ยวเข้าไปจะมีน้ำ  แต่ว่าน้ำมันเป็นน้ำหวาน  ชมพู่เป็นอาหารเย็นไม่เป็นพิษต่อโรค  ไม่แสลงต่อโรคใดๆ  ทั้งสิ้น ทางแพทย์แผนไทยและแผนจีนบอกว่ากินชมพู่วันละลูก  จะช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคเก๊าได้ 

สำหรับ เทคนิคที่ทำให้ชมพู่หวาน   ทำให้มีราคาแพงเทคนิคหลักๆ  ก็คือ  หนึ่งการเติมเกลือ  สองการฉีดน้ำตาล 

เทคนิคการเติมเกลือ   เกลือที่คุณประมวลใช้  คือเกลือเม็ด จะหว่านไปบริเวณโคนต้น ตรงพุ่มโคนต้น  1  กิโลกรัม  หว่านบนพื้นที่  10  ตารางเมตร  ปริมาณไม่มาก  เป็นปริมาณบางบาง แล้วฉีดน้ำตาม เ พื่อให้น้ำทำให้เกลือละลาย  แล้วลดปริมาณความเค็มได้  ทำให้เมื่อเกลือละลายไปแล้ว  โซเดียมที่พืชดูดเข้าไปจะมาช่วยในเรื่องความหวานของชมพู่  เพราะว่าชมพู่โดยปกติ จะมีรสจืดเปรี้ยว  แต่ถ้าเติมเกลือเข้าไป  จะช่วยในเรื่องของความหวานได้ด้วย 

อย่างที่สองคือน้ำตาล  น้ำตาลที่ใช้จะเป็นน้ำตาลมะพร้าว  เป็นน้ำตาลปี๊บมะพร้าว เอาน้ำตาลปี๊บมา  1  กิโลกรัม  มาเคี่ยวกับน้ำ  1  ลิตร  เคี่ยวจนน้ำตาลสุก  ก็เอาน้ำตาลที่ได้  100  ซีซี  มาผสมกับน้ำ 20 ลิตร แล้วก็ฉีดพ่นไปที่ใบ ไม่ควรใช้มากไปกว่านี้เพราะจะทำให้ใบมีความเหนียวหนืด  ทำให้ฝุ่นละอองต่างๆ  หรือเชื้อโรคต่างๆ  มาดูด  มาเกาะ  ทำให้เกิดความเสียหายกับใบและต้นได้ 

ข้อมูลอ้างอิง  :   https://www.rakbankerd.com/

ขอขอบคุณคลิปวีดีโอจาก :  https://www.youtube.com

ข่าวเกษตร    เกษตรน่ารู้    ชมพู่เพชรสายรุ้ง    เพชรสายน้ำผึ้ง    เทคนิคที่ทำให้ชมพู่หวาน