วิธีการปลูก และดูแล ธรรมรักษา
วิธีการปลูก และดูแล ธรรมรักษา
ชื่อสามัญ (Common name) Heliconia
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Jasminum Heliconia sp.
ชื่อวงศ์ (Family) Heliconiaceae
ถิ่นกำเนิด (Native) เขตร้อนของทวีปอเมริกาและหมู่เกาะในแถบทะเลแคริบเบียน
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
ธรรมรักษา เป็นไม้ดอกเขตร้อนชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มีการปลูกและนำเข้ามา นานแล้ว ส่วนมากนิยมปลูกไว้ริมน้ำที่น้ำแฉะใช้สำหรับตัดดอกบูชาพระ ปัจจุบันธรรมรักษา ได้รับความนิยมมากขึ้น มีการนำพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาจากต่างประเทศที่ช่อดอกมีสีสวย ดอกบานทน เพื่อตัดดอกเป็นการค้า เกษตรกรส่วนมากจะปลูกพันธุ์ดอกเล็กสำหรับตัดดอกเป็นการค้า พันธุ์ ดอกใหญ่ยังไม่มีปลูกตัดดอกเป็นการค้ามากนัก โดยมากจะปลูกกันในหมู่นักสะสมพันธุ์เนื่องจาก ต้นพันธุ์ราคาสูงและมีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่า
ธรรมรักษาบางพันธุ์เหมาะสำหรับปลูกดูเล่นเป็นกอๆ หรือจัดสวนตกแต่งบริเวณ นอกจากจะปลูก สำหรับตัดดอกใช้ในประเทศแล้วยังมีการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2534 การส่งออก ดอกและต้นธรรมรักษามีมูลค่าถึง 115,489 บาท ประเทศรับซื้อคือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และซาอุดิอาระเบีย (จากด่านตรวจพืช) ในต่างประเทศมีการปลูกเป็นค้าที่ฮาวาย ฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเนเธอร์แลนด์ และประเทศในทวีปอเมริกาใต้ (คอสตาริกา จาไมกา ฮอนดูรัส เป็นต้น) เนื่องจากดอกธรรมรักษามีความสวยงามหลาย หลายขนาดและยังให้บรรยากาศของเมืองร้อน ในอนาคตจึงเชื่อว่าธรรมรักษาจะเป็นไม้ตัดดอกที่อยู่ในความนิยมอีกชนิดหนึ่ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ธรรมรักษาเป็นพืชล้มลุกข้ามฤดูหรือหลายฤดูลักษณะอวบน้ำยืนต้น (Herbaceous Perenial) ลำต้นใต้ดินแบบเหง้า (Rhizome) คล้ายขิง ส่วนเหนือดินเรียกว่าลำต้นเทียม ซึ่งประกอบด้วย กาบใบเรียงซ้อนสลับกันคล้ายกาบกล้วย ใบมีลักษณะคล้ายใบกล้วย ลักษณะของกอแบ่งออก เป็น 2 ลักษณะคือ
- กอแน่น กอลักษณะนี้ เหง้าจะมีข้อชิดกันทำให้หน่อใหม่เกิดชิดโคนต้นเดิมจึงทำให้กอมี ลักษณะแน่น
- กอขยายกว้าง กอลักษณะนี้เหง้าจะมีข้อห่างกันทำให้หน่อเกิดใหม่เกิดห่างต้นเดิมกอขยายกว้าง อย่างรวดเร็ว
ช่อดอกจะเกิดขึ้นที่กลางลำต้นเทียม ช่อดอกประกอบด้วย ก้านช่อดอก(Peduncle) ก้านต่อระหว่าง ใบประดับ(Rachis) ใบประดับ (Bract) ซึ่งรองรับดอกอยู่ เรียงสลับกันเหมือนรูปเรือ ใบประดับ อาจอยู่ในระนาบเดียวกันหรือต่อกันก็ได้แล้วแต่พันธุ์ ใบประดับมีหลายสี (แดง, ชมพู, เหลือง, และแสด) ภายในกลีบประดับจะมีดอกคล้ายดอกกล้วยเล็ก ๆ เรียงกันอยู่แถวเดียว ดอกนี้เรียกว่า ดอกจริง ซึ่งเป็นดอกสมบูรณ์เพศ แต่ละดอกมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ และกลีบดอก 3 กลีบ ทั้งหมดนี้ จะหลอมติดกันเป็นหลอดภายในมีเกสรตัวผู้ 6 อัน ซึ่งจะเจริญเพียง 5 อัน อีก 1 อันเป็นหมัน รังไข่ อยู่ใต้กลีบเลี้ยงและกลีบดอก ภายในมี 3 ช่องเป็นผลนุ่ม เมล็ดคล้ายเมล็ดกล้วย แข็ง ผลสุกมีสี น้ำเงิน ถ้าเป็นชนิดที่มาจากทวีปอเมริกา และมีสีแดงถ้ามาจากหมู่เกาะแปซิฟิก
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต
1. แสง(Light)
พันธุ์ธรรมรักษาที่ปลูกเป็นการค้าส่วนใหญ่จะเป็นไม้กลางแจ้งมีความต้องการแสง 100% เพราะว่าจะมีผลต่อการออกดอกและสีของดอก
2. อุณหภูมิ(Temperature)
พบว่ายังไม่มีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นการออกดอก แต่ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น จะกระตุ้นให้ออกดอกเร็วขึ้น ธรรมรักษาแต่ละพันธุ์ต้องการอุณหภูมิที่แตกต่างกันไป เช่น ต้องการอุณหภูมิ 21-35 องศา C และจะหยุดการเจริญเติบโต 10 องศา C
ธรรมรักษาสามารถปลูกได้ดีในดินที่เป็นกรด ไปจนถึงด่างเล็กน้อย (pH ประมาณ 5.4-6.2) ดินควรเป็นดินร่วนซุยมีอินทรีย์วัตถุสูงและระบายน้ำดี ควรใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยสูตร 15-15-15, 16-16-16 ซุปเปอร์ฟอสเฟต ครึ่งช้อนชา คลุกเคล้ากัน รองก้นหลุมก่อนปลูกด้วย
ระยะปลูก ควรใช้ 1x1 เมตรถึง 2x2 เมตร รดน้ำเช้าเย็นขณะเริ่มปลูกใหม่ๆ และช่วงแรกควรอยู่ในร่มก่อนประมาณ 1 เดือน หากต้องปลูก ลงแปลงเลยในช่วงแรกควรพรางแสงด้วยซาแรน
การให้น้ำธรรมรักษา เป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำแฉะ วิธีการให้น้ำควรให้แบบกล้วยไม้คือใช้เรือเดิน ตามร่องแล้วฉีดพ่นมาบนแปลง ถ้าธรรมรักษาได้รับน้ำไม่เพียงพอจะมีผลต่อคุณภาพของดอก และอายุการปักแจกัน
การใส่ปุ๋ยธรรมรักษา ตอบสนองต่อการให้น้ำ + ปุ๋ย n ในช่วงแรก ของการเจริญเติบโตเราควรใส่ปุ๋ยคอก สลับกับปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตร 16-16-16 เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโต ทางด้านลำต้นรวมทั้งการแตกหน่อแตกกอด้วย n ช่วงการออกดอก จะใช้ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสสูงเพื่อเร่งดอก เช่น 10-30-10 หรือ 13-13-21 และที่สำคัญควรให้ธาตุเหล็กเพิ่มด้วยเพื่อจะทำให้ใบเข้มและสีดอกสด
การตัดดอก หลังจากปลูกจนต้นสูงมีใบประมาณ 4-5 ใบก็จะให้ดอก หรืออายุของต้นประมาณ 1 ปี ธรรมรักษาสามารถทำเป็นไม้ตัดดอกได้ ทั้งดอกเล็กและดอกใหญ่ แต่พันธุ์ดอกเล็กปลูกเป็น ไม้ตัดดอกได้ดีสามารถใช้ประโยชน์ได้มาก ส่วนพันธุ์ดอกใหญ่จะให้ปริมาณดอกน้อยกว่า การตัดดอกในบ้านเรานิยมตัดดอกเมื่อบานประมาณ ฝ -1/3 ดอกแล้ว ส่วนในต่างประเทศนิยมตัดเมื่อเห็น ใบประดับแรกผลิออกมา แต่ดอกยังไม่โผล่ ดอกธรรมรักษาหลังจากตัดดอกจะคงอยู่ในสภาพเดิม จะไม่บานอีกต่อไป
การตัดดอกประเภทดอกใหญ่จะตัดระดับดิน มักจะริดใบทิ้ง และตัดก้านใบ เหนือช่อดอกเล็กน้อย เพื่อป้องกันการบอบช้ำของใบประดับส่วนดอกเล็กให้ตัดใบ และเหลือใบยอดไว้ 1-2 ใบ อายุการปักแจกันจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วแต่พันธุ์และการดูแลรักษา ดอกไม้นั้น
โรคแมลง และการป้องกันกำจัด
โรคโคนเน่า และรากเน่าที่เกิดจากเชื้อรา จะเป็นมากในฤดูฝน ควรฉีดพ่นยากันราเดือนละครั้ง
โรครากปม เกิดจากไส้เดือนฝอย จะทำให้ต้นเหี่ยวทั้งต้น ,แคระแกรนไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก ไส้เดือนฝอยไปอุดท่อน้ำ และท่ออาหาร ป้องกันกำจัดโดยใช้ยาพวกไวเดทแอลราดลงพื้นเป็นครั้ง คราวเดือนละ 1 ครั้ง
โพสต์โดย : POK@