เทคนิคการใช้ปุ๋ยหมัก เพื่อดูแลมะม่วง นอกฤดู
เทคนิคการใช้ปุ๋ยหมัก
เพื่อดูแลมะม่วง นอกฤดู
การผลิตมะม่วงนอกฤดู ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เกษตรกรชาวสวนมะม่วงได้ใช้กันมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากผลผลิตสามารถขายได้ในราคาสูงกว่ามะม่วงในฤดูกาลปกติทั่วไป ซึ่งหากเกษตรกรมีสินค้าหมุนเวียนกันกันขายได้ตลอดทั้งปีแล้วนั้น จะมีช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมักจะพบเห็นเกษตรกรบางส่วนได้นำเอาเทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ย และสารเคมีเพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิตมะม่วงนอกฤดูกาล
คุณบุญส่วน แก้วไพฑูรย์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮดเพื่อการส่งออก ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น จากบทบาทการเป็นหมอดินอาสาและอาสาสมัครเกษตร จึงได้นำเอาความรู้ที่เคยได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานมาประยุกต์ใช้ภายในสวนมะม่วง โดยมุ่งเน้นไปถึงแนวทางในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีการเกษตรให้เกิดประโยชน์สูง จึงได้ให้คำแนะนำวิธีการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เพื่อการลดต้นทุน เพิ่มรายได้ การบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
1. แกลบดิบ 1,000 กิโลกรัม
2. ปุ๋ยคอก(มูลโค,กระบือ) 500 กิโลกรัม
3. น้ำหมักชีวภาพจากผลไม้สุก 40 ลิตร
4. น้ำหมักชีวภาพจากเศษปลา 20 ลิตร
5. ปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ จำนวน 10 กิโลกรัม
6. ปุ๋ยยูเรีย(46-0-0) จำนวน 5 กิโลกรัม
สูตรน้ำหมักจากเศษปลา :
-วัตถุดิบ : เศษปลาจากตลาด 2 ส่วน , กากน้ำตาล 1 ส่วน , พด.2 (กรมพัฒนาที่ดิน) 1 ซอง , น้ำสะอาด 10 ลิตร
-ขั้นตอนวิธีการทำ : นำปลามาสับหรือหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เตรียมลงในถังหมัก จากนั้นละลายสารเร่ง พด.2 กับน้ำสะอาดและกากน้ำตาลตามอัตราส่วน แล้วเทลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเศษปลาที่เตรียมไว้ จากนั้นปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม ใช้ระยะเวลาในการหมักตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป
สูตรน้ำหมักจากผลไม้สุก :
-วัตถุดิบ : ผลไม้สุก 1 ส่วน , กากน้ำตาล 1 ส่วน
, พด.2 (กรมพัฒนาที่ดิน) 1 ซอง, น้ำสะอาด 10 ลิตร
-ขั้นตอนวิธีการทำ : นำ ผลไม้สุกที่มีรสหวาน อาทิ มะละกอ มะม่วง มะเขือเทศ หั่นใส่เตรียมไว้ภายในถังหมัก จากนั้นละลายสารเร่ง พด.2 กับน้ำสะอาดและกากน้ำตาลตามอัตราส่วน แล้วเทลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเศษปลาที่เตรียมไว้ จากนั้นปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม ใช้ระยะเวลาในการหมักตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
1.ก่อนอื่นให้นำน้ำหมักจากเศษปลา(กรองเอาเฉพาะน้ำ) ผสมรวมกับน้ำหมักจากผลไม้สุก(กรองเอาเฉพาะน้ำ) ตามอัตราส่วนที่กำหนด จากนั้นให้นำปุ๋ยยูเรียใส่เติมลงไป ใช้ไม้คนให้เข้ากันกับน้ำหมักจนสังเกตเห็นว่าเม็ดปุ๋ยละลายดีแล้ว ใส่เตรียมไว้ในภาชนะ
2.คลุกเคล้าส่วนผสมของแกลบดิบ และมูลสัตว์ให้เข้ากันดี แล้วเทราดด้วยน้ำหมักที่ลายลายกับปุ๋ยยูเรียแล้ว จากนั้นให้คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้ได้ความชื้นพอประมาณ 50%
3.โรยปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ใส่ลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งก่อนตักใส่กระสอบปุ๋ย มัดปากกระสอบให้แน่น แล้วนำไปตั้งเก็บไว้ในที่ร่ม ประมาณ 7 วัน เพื่อให้ปุ๋ยหมักย่อยสลายดีก่อนนำไปใช้ประโยชน์
การนำไปใช้งาน :
ภายหลังจากเก็บผลผลิตมะม่วงและทำการตัดแต่งกิ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กำจัดหญ้าวัชพืชบริเวณรอบๆทรงพุ่มของต้นมะม่วงออกให้หมด แล้วนำปุ๋ยหมักที่ผลิตได้ไปโรยใส่บริเวณรอบๆทรงพุ่ม อัตรา 20-25 กิโลกรัม/ต้น โดยใส่ปุ๋ยหมักอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อใช้เป็นปุ๋ยบำรุงมะม่วง ซึ่งปุ๋ยหมักสูตรดังกล่าวจะมีส่วนช่วยบำรุงลำต้นให้สมบูรณ์แข็งแรง ช่วยเร่งมะม่วงให้แตกใบอ่อนและออกดอกติดผลดก ซึ่งสามารถนำมาใช้ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีเพื่อกระตุ้นให้มะม่วงออกผลผลิตผลิตนอกฤดูกาลต่อไป
โพสต์โดย : POK@