Social :



วัดเชียงทอง สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ หลวงพระบางมานานกว่า 4 ศตวรรษ

14 ส.ค. 62 10:08
วัดเชียงทอง สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ หลวงพระบางมานานกว่า 4 ศตวรรษ

วัดเชียงทอง สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ หลวงพระบางมานานกว่า 4 ศตวรรษ

วัดเชียงทอง  สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ
หลวงพระบางมานานกว่า  4  ศตวรรษ

วัดเชียงทอง   อีกหนึ่งสถานที่สำคัญ  ที่ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนที่ หลวงพระบาง   จะต้องไม่พลาดเข้ามาแวะชม  เนื่องจากวัดแห่งนี้ถือว่าเป็นมณีแห่งเมืองหลวงพระบาง  และศิลปะล้านช้าง  นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีประดิษฐานหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งของหลวงพระบางด้วยเช่นกัน


สำหรับวัดเชียงทองนั้น  ถูกสร้างขึ้นเมื่อราวๆ  ปีพ.ศ.  2101-2103   ที่เป็นช่วงรัชกาลของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช  กษัตริย์ที่ครั้งหนึ่งเคยปกครองดินแดนล้านนา  และล้านช้าง  โดยวัดนี้ได้สร้างขึ้นก่อนช่วงที่พระองค์จะย้ายไปเวียงจันทน์ได้ไม่นาน 


จุดแรกที่เมื่อเราไปถึงวัดเชียงทอง แล้วไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งก็คือการแวะไปเยี่ยมชม   สิม   หรืออุโบสถเก่าแก่ของวัดเชียงทอง  ซึ่ง  สิมหลังนี้ได้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในอัญมณีแห่งศิลปะล้านช้าง  ก่อนที่จะกลายเป็นสถาปัตยกรรมในเวลาต่อมา  นอกจากนี้  สิมแห่งนี้ยงเป็น  สิมแบบหลวงพระบางที่เก่าแก่  และมีความสมบูรณ์ที่สุดด้วย  นอกจากนี้ด้านหลังของ  สิมเป็นงานประดับกระจกรูปต้นทองขนาดใหญ่  ที่เป็นการสื่อความหมายถึงตำนานของการสร้างเมืองหลวงพระบาง  

ในส่วนของด้านใน  สิม   จะมีแท่นประดิษฐานของพระประธานขนาดใหญ่  ที่ถูกตั้งร่วมกับพระพุทธรูปองค์เล็กๆ  ประมาณสิบองค์  ซึ่งแต่ละองค์นั้นก็มีทั้ง  พระนั่ง  พระยืน อีกส่วนที่งดงาม  และไม่ควรพลาดคือ  ผนังด้านในของ  สิม  ที่เป็นผนังไม้ที่ถูกตกแต่งด้วยลายฟอกคำแบบเดียวกับที่อยู่ด้านนอกของ  สิม  โดยด้านในนั้นจะเป็นลวดลายที่เล่าเรื่องราวของพุทธประวัติ  นิทานชาดก  และเรื่องราวตำนานของเมืองหลวงพระบาง  


ส่วนด้านหลังของ  สิม ก็ยังมีหอ  ให้น่าเข้าไปไหว้  เข้าไปชมอีก  2  หอด้วยกัน 
Lif
ได้แก่   หอไหว้พระพุทธไสยาสน์   (หรือ  หอกุหลาบ )  สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะผนังด้านนอกนั้นเป็นสีชมพูคล้ายดอกกุหลาบนั่นเอง  นอกจากนี้ยังมีงานกระจกติดอยู่ตามผนัง  ที่ได้เล่านิทานพื้นบ้านที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับธรรมะ  และศีลธรรมของชาวลาวเอาไว้มากมาย  

ส่วนหออีกหลัง  ได้แก่   หอพระม่าน   เป็นอีกหอไหว้หลังเล็ก  ที่มีสีชมพูเช่นเดียวกับ  หอกุหลาบ  และยังมีการประดับกระจกเป็นนิทานพื้นบ้าน  แบบเดียวกับหอหลังที่แล้ว  ที่สำคัญคือภายในหอนี้ได้มีประดิษฐานของพระม่าน  ที่เป็น  1  ใน  3  ของพระพุทธรูปแห่งเมืองหลวงพระบาง  แต่ด้านในนั้นไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม  นอกจากจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ออกมาเพียงปีละ  1  ครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคนลาว  คือในช่วงวันที่  23-27  เมษายน  ซึ่งจะมีประดิษฐานภายในวัดเชียงทอง  ให้ผู้คนได้เข้ามาสรงน้ำพระ  












โพสต์โดย : POK@