วัดเชียงทอง สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ หลวงพระบางมานานกว่า 4 ศตวรรษ
วัดเชียงทอง สถานที่ที่บันทึกประวัติศาสตร์ของ
หลวงพระบางมานานกว่า 4 ศตวรรษ
วัดเชียงทอง อีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ที่ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนที่
หลวงพระบาง จะต้องไม่พลาดเข้ามาแวะชม เนื่องจากวัดแห่งนี้ถือว่าเป็นมณีแห่งเมืองหลวงพระบาง และศิลปะล้านช้าง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีประดิษฐานหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งของหลวงพระบางด้วยเช่นกัน
สำหรับวัดเชียงทองนั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อราวๆ ปีพ.ศ. 2101-2103 ที่เป็นช่วงรัชกาลของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ที่ครั้งหนึ่งเคยปกครองดินแดนล้านนา และล้านช้าง โดยวัดนี้ได้สร้างขึ้นก่อนช่วงที่พระองค์จะย้ายไปเวียงจันทน์ได้ไม่นาน
จุดแรกที่เมื่อเราไปถึงวัดเชียงทอง แล้วไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งก็คือการแวะไปเยี่ยมชม
สิม หรืออุโบสถเก่าแก่ของวัดเชียงทอง ซึ่ง สิมหลังนี้ได้ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในอัญมณีแห่งศิลปะล้านช้าง ก่อนที่จะกลายเป็นสถาปัตยกรรมในเวลาต่อมา นอกจากนี้ สิมแห่งนี้ยงเป็น สิมแบบหลวงพระบางที่เก่าแก่ และมีความสมบูรณ์ที่สุดด้วย นอกจากนี้ด้านหลังของ สิมเป็นงานประดับกระจกรูปต้นทองขนาดใหญ่ ที่เป็นการสื่อความหมายถึงตำนานของการสร้างเมืองหลวงพระบาง
ในส่วนของด้านใน สิม จะมีแท่นประดิษฐานของพระประธานขนาดใหญ่ ที่ถูกตั้งร่วมกับพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ประมาณสิบองค์ ซึ่งแต่ละองค์นั้นก็มีทั้ง พระนั่ง พระยืน อีกส่วนที่งดงาม และไม่ควรพลาดคือ ผนังด้านในของ สิม ที่เป็นผนังไม้ที่ถูกตกแต่งด้วยลายฟอกคำแบบเดียวกับที่อยู่ด้านนอกของ สิม โดยด้านในนั้นจะเป็นลวดลายที่เล่าเรื่องราวของพุทธประวัติ นิทานชาดก และเรื่องราวตำนานของเมืองหลวงพระบาง
ส่วนด้านหลังของ
สิม ก็ยังมีหอ ให้น่าเข้าไปไหว้ เข้าไปชมอีก 2 หอด้วยกัน
ได้แก่
หอไหว้พระพุทธไสยาสน์ (หรือ
หอกุหลาบ ) สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะผนังด้านนอกนั้นเป็นสีชมพูคล้ายดอกกุหลาบนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีงานกระจกติดอยู่ตามผนัง ที่ได้เล่านิทานพื้นบ้านที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับธรรมะ และศีลธรรมของชาวลาวเอาไว้มากมาย
ส่วนหออีกหลัง ได้แก่
หอพระม่าน เป็นอีกหอไหว้หลังเล็ก ที่มีสีชมพูเช่นเดียวกับ หอกุหลาบ และยังมีการประดับกระจกเป็นนิทานพื้นบ้าน แบบเดียวกับหอหลังที่แล้ว ที่สำคัญคือภายในหอนี้ได้มีประดิษฐานของพระม่าน ที่เป็น 1 ใน 3 ของพระพุทธรูปแห่งเมืองหลวงพระบาง แต่ด้านในนั้นไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม นอกจากจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ออกมาเพียงปีละ 1 ครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคนลาว คือในช่วงวันที่ 23-27 เมษายน ซึ่งจะมีประดิษฐานภายในวัดเชียงทอง ให้ผู้คนได้เข้ามาสรงน้ำพระ
โพสต์โดย : POK@