ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง “เค สามถุยส์”ทำกิจกรรมสีดาลุยไฟจี้ก้าวไกลสอบสส.คุกคามทางเพศ
“เค สามถุยส์” นำเครือข่าย ทำกิจกรรม สีดาลุยไฟ เรียกร้องก้าวไกล เร่งสอบสส.ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ โวยได้มีการประสานงานแล้วแต่กลับปฏิเสธที่จะมารับหนังสือ
ที่บริเวณด้านหน้าอาคารไทยซัมมิท แฟนเพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” และนายนิยม นพรัตน์ หรือ “เค สามถุยส์” นัดทำกิจกรรมการแสดงสีดาลุยไฟ เพื่อเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มี สส.ของพรรคก้าวไกลถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ซึ่งมีนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
โดยก่อนเริ่มการทำกิจกรรมนายนิยม กล่าวว่า ตนขอฝากเสียงนี้ไปถึงผู้บริหารพรรค ก้าวไกลทุกคน ว่าวันนี้พวกเราประชาชนมายื่นหนังสือให้กับพวกท่าน ซึ่งได้มีการประสานงานและขออนุญาตเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ว่า จะมายื่นหนังสือที่ตึกไทยซัมมิท แต่กลับปฏิเสธที่จะมารับหนังสือจากพวกเรา โดยเราจะใช้เวลาทำกิจกรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าไม่มารับหนังสือจากพวกเรา แสดงว่าไม่ยอมรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน
“ที่เรามาทำกิจกรรมวันนี้ เราไม่ได้มาทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เป็นกิจกรรมที่เราทำเพื่อสังคม แทนที่พรรคก้าวไกลจะแสดงความรับผิดชอบให้ประชาชนเห็น แต่พรรคก้าวไกลกลับไปชี้หน้าด่าผู้อื่นว่าสกปรก พรรคก้าวไกลต้องดูบ้านของตัวเองว่า ขยะเต็มบ้านต้องกลับไปทำความสะอาดบ้านของตนเอง เราจึงต้องออกมาในฐานะประชาชน พรรคก้าวไกลต้องแสดงความชัดเจนให้ประชาชนได้เห็น สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำวันนี้ คนที่ถูกคุกคามคือน้องที่ทำงานที่อาสามาทำงาน และช่วยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกลเอง เงินทองก็ไม่ได้คิด แต่ สส.หรือผู้สมัครของพรรคก้าวไกลกลับทำพฤติกรรมคุกคามทางเพศ เราจึงอยากเรียกร้องเพื่อไม่ให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป ” นายเค กล่าว
นายนิยม กล่าวต่อว่า ตนต้องฝากอีกหนึ่งเสียงไปถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย ปิดทำการมาเป็นปีแล้ว จะเริ่มทำงานกันเมื่อไหร่ ตนไม่เห็นนักสิทธิมนุษยชนคนไหนออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องที่ สส.พรรคก้าวไกล หรือคนในพรรคก้าวไกลมีพฤติกรรมคุกคามประชาชน หายไปไหนกันหมด หรือ เป็นเพราะพวกคุณไปเชียร์พรรคก้าวไกล คุณเลยไม่กล้าที่จะออกมาส่งเสียงเรียกร้องสิทธิ ตนไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นพรรคอื่น กลุ่มคนเหล่านี้จะดาหน้าออกมากันกี่คน คุณหายหัวไปไหนกันเอาเงินเดือนมาคืนภาษีประชาชนดีไหม พวกคุณต้องทำงานกันมากกว่านี้ คุณจะรักจะชอบพรรคใดไม่มีปัญหา แต่ต้องทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ไม่แสดงความเห็นอะไรเลย
ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาในนามประชาชนคนหนึ่ง ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน และทนเห็นความเจ็บปวดที่ผู้หญิงต้องถูกรังแกคุกคามโดยนักการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งมักจะอ้างความเป็นคนรุ่นใหม่ และเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่เมื่อเกิดเหตุละเมิดครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่อดีตผู้บริหารพรรคที่เคยละเมิดภรรยาตัวเอง รวมถึง สส.ที่ทำร้ายแฟนตัวเอง คุกคามทางเพศทำแล้วซ้ำอีก กิจกรรมวันนี้จึงจัดขึ้นมาเพราะปัญหาทางเพศไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาสังคมที่พรรคก้าวไกลได้จุดประกายขึ้นมา
นายแทนคุณ กล่าวต่อว่า กว่าที่เหยื่อจะรวบรวมความกล้าหาญออกมาพูดกับสังคมว่า เราถูกผู้ชายทำร้ายร่างกาย และคุกคามทางเพศ ต้องใช้ความกล้า และพลังใจมากแค่ไหน ซึ่งเมื่อออกมาพูดแล้ว กลับถูกนินทาใส่ร้าย และถูกตั้งข้อสงสัยจากแฟนด้อมของพวกคุณ โดยที่คนในพรรคการเมืองไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด
นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า พรรคก้าวไกลกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้เหยื่อออกมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง แล้วต่อไปเหยื่อที่ไหนจะกล้าออกมาพูด เราไม่ได้มาขอให้พรรคก้าวไกลทำอะไรสูงส่งไปมากกว่ามาตรฐานของสังคม แต่เพียงขอให้พรรคก้าวไกลทำตามอุดมการณ์ของพรรคในอดีตอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ นายแทนได้เสนอ 3 ข้อเรียกร้องถึงพรรคก้าวไกล คือ 1.พรรคก้าวไกลต้องมีทัศนคติใหม่ว่า การทำร้ายร่างกาย และคุกคามทางเพศเป็นเรื่องใหญ่ของสังคม เป็นภัยคุกคามที่รุนแรงที่สุดรูปแบบหนึ่ง ต้องมีการจัดการแก้ไขด้วยกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจนทันท่วงที ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือส่วนบุคคล และไม่ใช่การอุ้มชูดูแลช่วยเหลือพวกเดียวกัน เท่ากับการสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เท่ากับกระบวนการตรวจสอบกันเองในพรรคก้าวไกลต่อไปนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับแล้ว
2.พรรคก้าวไกลต้องปกป้องเหยื่อจากเสียงนินทา การตีตราทางสังคม โดยเฉพาะจากบรรดาผู้สนับสนุนพรรค หรือแม้แต่ตัว สส.ผู้กระทำผิดในพรรคเดียวกันเอง ที่ไม่เพียงไม่คิดแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แต่กลับโยนความผิดให้ผู้อื่น เสมือนการสร้างคนอื่นให้เป็นปีศาจจากเงาของตนเอง
3.ท่าทีของ สส. ทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะ สส.หญิง สส.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึง สส.ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในพรรคก้าวไกล ที่เคยออกนโยบายปราศรัยเคลื่อนไหวต่างๆ เวลานี้กลับนิ่งเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสมือนเหยื่อเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีตัวตน สังคมต้องไม่นิ่งนอนใจ เพราะวันหนึ่งสถานการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของคุณ
นายแทนคุณ กล่าวด้วยว่า ทัศนคติของผู้ชายในสถานะทางสังคมที่สูงกว่า คือดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีแฟนด้อมเป็นของตัวเอง ทำให้เหยื่อไม่กล้าออกมาพูดความจริงต่อสังคม เพราะกลัวการคุกคาม พวกเราทุกคนวันนี้ไม่ได้มาในฐานะพรรคการเมือง หรือนักการเมือง แต่มาในฐานะประชาชนที่ทนไม่ไหวกับสถานการณ์แบบนี้ ตนขอยืนยันว่า เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร เคลื่อนไหวในนามของประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ไอโอหรือพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตามที่มีผู้กล่าวหาแต่อย่างใด
ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews
โพสต์โดย : monnyboy