Social :



พณ.ชี้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น หนุนส่งออก มาเลเซียส่งสัญญาณเพิ่มนำเข้า คงเป้า 6 ล้านตัน

11 ส.ค. 64 12:08
พณ.ชี้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น หนุนส่งออก มาเลเซียส่งสัญญาณเพิ่มนำเข้า คงเป้า 6 ล้านตัน

พณ.ชี้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น หนุนส่งออก มาเลเซียส่งสัญญาณเพิ่มนำเข้า คงเป้า 6 ล้านตัน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในฐานะ Salesman ประเทศ ได้จัดการประชุมหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (Padiberas Nasional Berhad : BERNAS) ผ่านระบบ Video Conference เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังมาเลเซียในช่วงครึ่งหลัง 2564 และหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าว

ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวของไทยและมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยได้แจ้งให้ BERNAS ทราบถึงสถานการณ์การผลิตข้าวของไทยในปี 2564 คาดว่าไทยจะมีผลผลิตข้าวมากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ รวมทั้งแรงงานในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีแรงงานกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ คาดการณ์ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ปัจจุบันราคาข้าวไทยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับข้าวจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดียและเวียดนาม ฝ่ายไทยจึงขอให้ BERNAS พิจารณานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น

ผู้แทน BERNAS ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าวในมาเลเซียว่า มาเลเซียมีผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณปีละ 9 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30-35 ของปริมาณความต้องการบริโภคทั้งหมด ซึ่งในปี 2564 นี้ คาดว่ามาเลเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีปริมาณ 1.08 ล้านตัน เนื่องจากมีปัญหาด้านการเพาะปลูกในประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าข้าวหลักของมาเลเซียมาโดยตลอดเนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา BERNAS จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากแหล่งอื่น เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม เพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพข้าวจะด้อยกว่าไทยแต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้สามารถส่งข้าวในราคาที่ถูกกว่าข้าวไทยมาก

“ BERNAS เห็นว่าครึ่งหลังปีนี้ อุปสงค์ของข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อได้ นอกจากปัจจัยด้านราคาลดลงทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้นแล้ว ผู้บริโภคในมาเลเซียยังเชื่อมั่นในคุณภาพและนิยมข้าวไทยมากกว่าข้าวจากแหล่งอื่น โดยจะเห็นได้จากปริมาณคำสั่งซื้อข้าวจากไทยที่เริ่มมีมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกช่วงครึ่งปีหลัง “
MulticollaC

นอกจากนี้ BERNAS ยังมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในมาเลเซียว่าควรเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย ประชาชนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงอุปสงค์จากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อุปสงค์ข้าวไทยเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ BERNAS แสดงความขอบคุณไทยสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดโดยเฉพาะในฐานะแหล่งนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพ และยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวไทยในตลาดมาเลเซีย

ผู้แทน BERNAS ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าวในมาเลเซียว่า มาเลเซียมีผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณปีละ 9 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30-35 ของปริมาณความต้องการบริโภคทั้งหมด ซึ่งในปี 2564 นี้ คาดว่ามาเลเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีปริมาณ 1.08 ล้านตัน เนื่องจากมีปัญหาด้านการเพาะปลูกในประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าข้าวหลักของมาเลเซียมาโดยตลอดเนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา BERNAS จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากแหล่งอื่น เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม เพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพข้าวจะด้อยกว่าไทยแต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้สามารถส่งข้าวในราคาที่ถูกกว่าข้าวไทยมาก

“ BERNAS เห็นว่าครึ่งหลังปีนี้ อุปสงค์ของข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อได้ นอกจากปัจจัยด้านราคาลดลงทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้นแล้ว ผู้บริโภคในมาเลเซียยังเชื่อมั่นในคุณภาพและนิยมข้าวไทยมากกว่าข้าวจากแหล่งอื่น โดยจะเห็นได้จากปริมาณคำสั่งซื้อข้าวจากไทยที่เริ่มมีมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกช่วงครึ่งปีหลัง “

นอกจากนี้ BERNAS ยังมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในมาเลเซียว่าควรเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย ประชาชนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงอุปสงค์จากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อุปสงค์ข้าวไทยเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ BERNAS แสดงความขอบคุณไทยสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดโดยเฉพาะในฐานะแหล่งนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพ และยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวไทยในตลาดมาเลเซีย

ขอบคุณที่มา ข่าวมติชน

โพสต์โดย : ปลายน้ำ