Social :



รปภ.หนี้ท่วมสู้ไม่ไหวฆ่าลูกเมียยกครัว4ศพ ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติ

05 ม.ค. 63 16:01
รปภ.หนี้ท่วมสู้ไม่ไหวฆ่าลูกเมียยกครัว4ศพ ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติ

รปภ.หนี้ท่วมสู้ไม่ไหวฆ่าลูกเมียยกครัว4ศพ ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติ

รปภ.หนี้ท่วมสู้ไม่ไหวฆ่าลูกเมียยกครัว4ศพ ก่อนผูกคอตายหน้าบ้าน ทิ้ง จม.ขอโทษญาติ


เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจในสังกัด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอุดรธานี แพทย์เวรรพ.เพ็ญ เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตาย 4 ศพ ในบ้านพักเลขที่ 260 หมู่ที่ 1 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน มีชาวบ้านจำนวนมากมุงดูต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา ใต้ต้นมะม่วงติดรั้วหน้าบ้าน พบศพ นายไทยสาน ซ่อนชัย อายุ 50 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอกับกิ่งมะม่วง เจ้าหน้าที่นำศพลงมาให้แพทย์ชันสูตร


ส่วนภายในบ้านที่ห้องโถงพบศพ นางวัชราภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 50 ปี ภรรยา ,น.ส.คชาภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 23 ปี และ น.ส.ศศริธร ซ่อนชัย อายุ 19 ปี  ลูกสาว นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ปลายเท้าของศพมีการนำถาดใส่ดอกไม้ธูปเทียนและขวดน้ำตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ตรวจชันสูตรเบื้องต้น พบว่าศพทั้ง 3 ศพ ถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณศีรษะทำให้มีบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกะโหลก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม. 


อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตายของ นายไทยสาน ระบุข้อ ตัดพ้อชีวิตทำนองว่า เป็นหนี้สินมากมายโดยเฉพาะประเด็น รถยนต์ติดไฟแนนซ์ เหลือประมาณ 60,000 บาท อีกทั้งไม่มีเงินส่งลูกให้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งขอโทษบุคคลต่าง ๆ ทั้งญาติพี่น้อง พ่อตาแม่ยาย และเพื่อนฝูง ที่ตัดสินใจก่อเหตุสังหารยกครัวและผูกคอตัวเองตายตามไปด้วยกัน 

MulticollaC

จากการสอบสวน เพื่อนบ้านใกล้เคียงให้การว่า ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันในบ้านอย่างรุนแรงตั้งแต่เช้าวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปดู เพราะคิดว่าเป็นเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ปรับความเข้าใจกันได้ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้มาเจอศพ นายไทยสาน ผูกคอตายใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้าน 

ด้าน นายบุญจันทร์ แสนเหมทอง อายุ 76 ปี พ่อตา ให้การว่า นายไทยสาน และนางวัชราภรณ์ ลูกเขยและลูกสาว ทำงานเป็นรปภ.และลูกจ้างประจำอยู่ที่ศูนย์หม่อนไหมเขต 4 อำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี ส่วน น.ส.คชาภรณ์ พึ่งเรียนจบคณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ น.ส.ศศิธร กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ลูกเขยเป็นคนดี รักลูกรักเมียมาก ไม่เคยให้ลูกเมียลำบาก ส่งเสริมให้ลูกเรียนสูง ๆ ซึ่งเคยยกมรดกเป็นที่นาให้ แต่ก็นำไปขายส่งลูกเรียน และกู้เงินในระบบประมาณ 2 ล้านมาส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยทั้งสองคน แต่ถ้าหากดื่มเหล้า นิสัยก็จะเปลี่ยนไป อาจจะวู่วามไม่ยอมใคร แต่เคยมาบ่นให้ฟังว่า มีหนี้สินมากเพราะส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย แต่ลูกจบมายังไม่มีงานทำ ไม่เคยคิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นแบบนี้ ถ้ามาปรึกษาพ่อแม่และญาติพี่น้อง ก็จะช่วยเหลือกัน

 

ด้าน นายณฐพล วิถี นอภ.เพ็ญ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย โดยเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค. นายไทยสาน ไปซื้อเหล้าขาวและธูปเทียนที่ร้านค้าภายในหมู่บ้านมาดื่มย้อมใจ 2 ขวด ก่อนใช้ท่อนไม้รองเก้าอี้โยก ทุบศีรษะเมียและลูกนอนจมกองเลือดตายในบ้าน แล้วจัดขันธ์ดอกไม้ธูปเทียนขอขมา จากนั้นก็เขียนจดหมายลาตาย ก่อนจะไปนำเชือกไปผูกคอที่ต้นมะม่วงหน้าบ้าน จนมีชาวบ้านขี่จักรยานยนต์ผ่านมาเห็น พยายามเรียกลูกเมียให้ออกมาดูศพ กลับไม่มีใครออกมา พอเข้าไปดูในบ้านก็พบว่ามีศพนอนจมกองเลือดในห้องโถงถึง 3 ศพด้วยกัน เบื้องต้นญาติทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจปมสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงมอบศพทั้งหมด ให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประพณีต่อไป.


ขอขอบคุณข้อมูล  Dailynews

โพสต์โดย : Ao